การเปลี่ยน Lifestyle เป็น Intermittent fasting (IF)
เริ่มแรกต้องบอกก่อนเลยว่าพวกเรานั้นออกกำลังด้วยความคาดหวังที่จะมีรูปร่างที่มั่นใจ จึงได้หาความรู้ทั้งด้านการกิน การออกกำลังกายจากหลายๆแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นดูจาก youtube และ การหาข้อมูลในเว็ปไซต์ต่างๆ จนมีความรู้และรูปร่างที่ดีในระดับหนึ่ง
ในขณะนั้นหลักการกินของเราก็จะเป็นการกินคลีนเป็นหลักวันละ 3 มื้อ ซึ่งมื้อเที่ยงก็จะต้องทำห่อไป ก็จะมีโปรตีนมื้อละ 30-40 กรัม ไม่รวมเวย์โปรตีนหลังเล่นเวท และค่อนข้างจำกัดไขมันพยายามเลี่ยงทุกอย่างที่เป็นไขมัน มีแค่น้ำมันมะกอกสเปรย์ที่ใช้ประจำ จะไม่แตะขนมขบเคี้ยวหรือขนมหวานเลยแต่จะมี Cheat meal ในแต่ละสัปดาห์ (บางทีก็ 2 มื้อ ถือว่าเป็นการกินที่ไร้สติมาก) จะแบ่งเป็นสองช่วง คือช่วงลดน้ำหนักช่วงที่ทรมานสุดๆ กับ ช่วงเพิ่มน้ำหนักก็จะกินปกติได้แต่ต้องเลือกกิน
การออกกำลังกายก็จะเป็น standard pyramid training เหมือนคนทั่วไปโดยจะเล่น 4 เซต เซตละ 8-10 ครั้งต่อท่า วันละ 7-8 ท่า รวมแล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมง (เเทบจะใช้ชีวิตอยู่ใน Gym ฝรั่งเรียก Gym Rat)
โดยจะแบ่งเป็น 5 วัน ดังนี้ วันจันทร์ (วันอกแห่งชาติ) - อก , ไทรเซป
วันอังคาร - หลัง , ไบเซป
วันพุธ - พัก
วันพฤหัส - ขาล้วน
วันศุกร์ - ไหล่ล้วน
วันเสาร์ - แขนล้วน
วันอาทิตย์ - พัก
นี่เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตช่วงก่อน ซึ่งผมขอบอกได้คำเดียวว่าค่อนข้างลำบากมากในการใช้ชีวิตประจำวันของคนปกติ และผลที่ได้ก็ไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจซักเท่าไหร่ แม้จะกินคลีนแต่เรามักจะพังเอาง่ายๆกับ cheat meal ที่จะทำให้เรากินมากกว่าปกติหลายเท่าตัวจนในบางครั้งที่เรากินคลีนมาทั้งสัปดาห์อาจสูญเปล่าจากอาการเก็บกดที่สะสมไว้
อยู่มาวันหนึ่งพวกเราได้ค้นพบ youtuber ที่มีชื่อว่า Kinobody มีผู้ก่อตั้งคือ Greg o'gallagher ซึ่งโดยเนื้อหาที่สอนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ intermittent fasting คือ ลักษณะของการกินเป็นช่วงๆไม่ได้กินแบบ 3 มื้อปกติ แต่จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงอด(Fasting Window) กับ ช่วงกิน (Feeding Window) และ Reverse pyramid training ซึ่งเป็นช่วงเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย และกล้ามเนื้อ
เราจึงตัดสินใจลงมือทำทันทีเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ของมหาลัยพอดี จากการลงมือทำในครั้งนั้น มันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเราไม่ว่าจะเป็นในด้าน lifestyle การกิน การออกกำลังกาย เเละนี่คือ ผลลัพธ์ที่พวกเราได้หลังจากผ่านทำIntermittent Fasting เป็นเวลา 1 เดือน 15 วันครับ
นี่เป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตด้วย Intermittent fasting (IF) ร่วมกับ Flexible dieting (การนับแคลอรี) ข้อดีคือสามารถกินอะไรก็ได้ที่ต้องการโดยไม่ทรมานกับการกินคลีน ทำให้มีความสุขกับการกินและการออกกำลังกายมากขึ้น
การกินแต่ละมื้อก่อนเจอ IF จืดชื้ดและไม่พอยาไส
แต่ชีวิตดีขึ้นเพราะ IF และที่สำคัญคือทั้งหมดนี้สามารถกินได้ในขณะที่ลดน้ำหนักหรือบอดี้แฟต
นอกจากอาหารมื้อหลัก ยังสามารถกินขนมเสริมในทุกๆวัน ซึ่งโดยปกติคือถือเป็นของต้องห้าม
กินได้เฉพาะ cheat meal เท่านั้น
จะเห็นว่าค่อนข้างแฮปปี้มีความสุขในการกินอาหารแม้จะอยู่ในช่วงลดน้ำหนักอยู่ก็ตาม อีกทั้งยังสามารถลดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยหากทำอย่างถูกต้อง